สักเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผมเริ่มสนใจ Bitcoin อย่างจริงจัง และคิดว่าแนวคิดของ Crypto Currency จะสามารถสร้างโอกาสใหม่ได้มากมาย ทั้งในรูปของการลงทุน การซื้อขายแลกเปลี่ยน และการเก็งกำไร
ประกอบกับที่เมื่อ 1 ปีก่อน ‘Libra Association’ ที่เกิดจากการรวมตัวกันของธุรกิจยักษ์ใหญ่ ภาคการเงิน E-Commerce และเจ้าพ่อ Social Media อย่าง Facebook มีความตั้งใจจะออก ‘Libra’ สกุลเงินออนไลน์แบบ Stable Coin ที่ผูกกับตะกร้าเงิน ผมยิ่งเห็นว่าการเปลี่ยนแปลง และการซื้อขายรูปแบบใหม่ ยิ่งใกล้ขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ
แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ Bitcoin หรือ Libra ในมุมของนักลงทุนสายอนุรักษ์หลายท่าน รวมถึงผู้บริโภคที่ยังไม่เชื่อมั่นในเงินรูปแบบนี้ การจะแลกเปลี่ยนเงินในกระเป๋ามาถือครองก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพัก …นี่คือสิ่งที่ผมมอง
แต่หลังจากที่จีนประกาศสร้าง ‘เงินหยวนดิจิทัล’ ผมบอกเลยว่า นี่แหละ! จุดเริ่มต้นที่แท้จริง ที่โลกจะเปลี่ยนมาใช้เงินออนไลน์อย่างแพร่หลาย และเป็นเงินจริง ๆ ที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าได้อย่างสมบูรณ์ และนี่ก็อาจจะเป็นอีกครั้งที่การทำธุรกิจของโลกใบนี้ ต้องเปลี่ยนอีกครั้ง!
‘หยวนดิจิทัล’ คืออะไร?
หยวนดิจิทัล คือสกุลเงินดิจิทัล ที่สร้างขึ้นโดยธนาคารกลางจีน ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าได้เหมือนเงินหยวนจริง ๆ ที่ถือกันในตลาด โดยได้รับความร่วมมือจากหลายบริษัท อาทิ Huawei, China Merchants Bank และ Tencent เริ่มทดลองใช้ใน 4 เมือง คือ ซูโจว, สงอัน, เซินเจิ้น และเฉิงตู แต่เชื่อว่าจะขยับขยายอย่างรวดเร็ว ถ้าอิงจากการเป็นสังคมไร้เงินสดของจีนในอดีต
แล้ว ‘หยวนดิจิทัล’ ต่างจากสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นอย่างไร
หยวนดิจิทัล ถือว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัล ที่ใกล้เคียงสกุลเงินจริงที่สุด เพราะมีธนาคารกลางจีนเป็นผู้สร้างเอง ดังนั้น เงินหยวนดิจิทัล จึงจะไม่ได้แตกต่างจากเงินหยวนจริง หลักการในการออกปริมาณเงิน ก็จะใกล้เคียงหรือเหมือนกับหลักการออกธนบัตรในระบบเศรษฐกิจ มีการควบคุมดูแลจากรัฐบาลจีนเหมือนกัน
มีความน่าเชื่อถือเหมือนเงินหยวนแบบเดิม เพียงแต่ใช้ได้ผ่านช่องทางดิจิทัลเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจาก Bitcoin หรือ Crypto Currency อื่น ๆ ที่ไม่มีคนคอยกำกับดูแล ออกแบบโดยใช้หลักการทางคณิตศาสตร์ ทำให้หลายคนมองว่าไม่น่าเชื่อถือ หรือเป็นตลาดของนักเก็งกำไร มากกว่าจะใช้เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าจริง ๆ
ประโยชน์ของ ‘หยวนดิจิทัล’
สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้การเปิดตัวของ ‘หยวนดิจิทัล’ ได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่คนกำลังให้ความสำคัญกับการรักษาความความสะอาด และการป้องกันการแพร่ระบาด ธนบัตรและเหรียญถูกมองว่าเป็นวัตถุที่สามารถแพร่เชื้อได้ จึงทำให้หลายคนเริ่มหันมาใช้การโอนเงิน การใช้ QR Code และเงินดิจิทัลมากขึ้น
นอกจากนี้ เงินดิจิทัล ยังมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าเหรียญหรือธนบัตร การแลกเปลี่ยนก็สะดวกมากขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง
อย่างไรก็ดี หยวนดิจิทัล ก็มีข้อจำกัดบางอย่างอยู่ คือการที่มันถูกควบคุมโดยธนาคารกลางจีน ไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างเสรีเหมือนสกุลเงินอื่น ที่สำคัญคือ การใช้เงินดิจิทัล จะทำให้ข้อมูลการใช้จ่ายของเราสามารถตรวจสอบได้ สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมาก ๆ ก็อาจจะต้องชั่งใจเสียหน่อย
บางที การเกิดขึ้นของหยวนดิจิทัล อาจเป็นเพียงการเริ่มต้นของประวัติศาสตร์เงินตรายุคใหม่ เชื่อว่าในอนาคต เราคงได้เห็นอีกหลายสกุลเงินที่จะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือ ธุรกิจต้องปรับตัว ปรับวิสัยทัศน์ใหม่ ให้สอดคล้องไปกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเริ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ และมันกำลังใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะโลกของเรา ก็กำลังเปลี่ยนในทุกนาที