ปัจจุบัน บนโลกของเรา มีประชากรที่ป่วยด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคลูปัส (Systemic Lupus Erythematosus: SLE) หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามของ ‘โรคพุ่มพวง’ ราว ๆ 5 ล้านคนทั่วโลก
โรคแพ้ภูมิตัวเอง คือโรคที่ระบบภูมิต้านทานของร่างกายทำงานผิดปกติ โจมตีอวัยวะในร่างกาย จนเกิดเป็นผื่นบวมแดงบนผิวหนัง ปวดข้อและกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และเสียชีวิตได้ในที่สุด แม้ว่าในตอนนี้โรคแพ้ภูมิตัวเองจะยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่แพทย์ก็มักจะรักษาด้วยการให้ยากดภูมิต้านทานเอาไว้ เพื่อไม่ให้โรคกำเริบ โดยวิธีนี้เป็นวิธีรักษาที่ถูกคิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1950
จากสถิติแล้ว 1 ใน 10 ของผู้ที่ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง โดยเฉพาะผู้หญิง มักจะเสียชีวิตในช่วง 10 ปีแรกหลังถูกวินิจฉัย การค้นคว้าวิจัยเพื่อค้นหายาที่จะสามารถรักษาโรคพุ่มพวงให้หายขาดได้ จึงอยู่ในความสนใจของวงการแพทย์เรื่อยมา และล่าสุด! ทีมนักวิจัยได้ค้นพบยาตัวหนึ่ง ที่อาจจะหยุดภูมิต้านทานที่มากเกินไปของร่างกาย และกลายเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองได้!
มีหลักฐานมากมายที่ชี้ว่า โรคแพ้ภูมิตัวเองมีความเกี่ยวข้องกับการสร้างโมเลกุล ‘Type 1 Interferons’ ที่มากเกินความพอดีของร่างกาย โดยโมเลกุลชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องกับการควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน จุดนี้เองที่ทำให้ ‘Eric Morand’ หนึ่งในทีมนักวิจัย เริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับผลลัพธ์ของ ‘Anifrolumab’ ยาที่มีผลช่วยปิดตัวรับของ ‘Type 1 Interferons’ และหยุดโมเลกุลจากการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานเกินเหตุ!
ทีมนักวิจัย ได้ทำการทดลองในผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง จำนวน 362 คน มีตั้งแต่คนที่มีอาการของโรคในระดับกลาง ๆ ไปจนถึงคนที่มีอาการรุนแรง กลุ่มผู้ทดลองจะได้รับการฉีดยาทุก ๆ 4 สัปดาห์ เป็นเวลา 48 สัปดาห์ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับยา Anifrolumab และกลุ่มที่ได้รับยาหลอก
เงื่อนไขของการทดลองครั้งนี้คือ หากอวัยวะภายในของผู้ที่เข้าร่วมการทดลองมีสัญญานที่ดีขึ้น และไม่มีการปรากฏของผื่นแดงเลยในระหว่างทำการทดลอง จะถือว่าการทดลองประสบความสำเร็จ! หลังทำการทดลองครบ 48 สัปดาห์ ทีมนักวิจัยพบว่า กลุ่มที่ได้รับยา Anifrolumab มีอัตราความสำเร็จอยู่ที่ 48% ในขณะที่กลุ่มยาหลอก มีอัตราความสำเร็จอยู่ที่ 32%
การที่ความสำเร็จของผู้ทดลองกลุ่มที่ได้รับยา Anifrolumab มีอัตราที่สูงกว่ากลุ่มยาหลอก เป็นสัญญาณที่ดีว่าในอนาคต ผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเองอาจจะสามารถหายขาดได้ และไม่ต้องทนทุกข์อีกต่อไป เพราะแม้ว่าในปัจจุบันจะมีวิธีการรักษาโดยการกินยากดภูมิต้านทาน แต่ในระยะยาว ความอันตรายจะไม่ได้มาจากตัวโรค แต่มาจากยา Steroids ที่ถูกใช้เพื่อกดภูมิไว้ต่างหาก วิธีการรักษาในปัจจุบัน จึงเป็นเหมือนดาบสองคมสำหรับผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเองมาตลอด
อย่างไรก็ตาม การทดลองในครั้งนี้ยังพบว่า การใช้ยา Anifrolumab รักษา มีผลข้างเคียงอยู่ไม่น้อยเช่นกัน และนั่นก็ทำให้ทีมนักวิจัยยังคงต้องค้นคว้ากันต่อไป