ในขณะที่ A.I. กำลังถูกพัฒนาขีดจำกัดให้สามารถอำนวยความสะดวกแก่มนุษย์ได้มากขึ้น เป็นแรงงานที่ลดภาระให้มนุษย์ได้มากขึ้น ความจริงที่ว่าหน้าที่ของ A.I. นั้นมาเพื่อทดแทน ‘มนุษย์’ ก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น …นั่นทำให้คำถามที่ว่า “แล้วใครกัน ที่จะต้องเดินออกจากหน้าที่ของตน ถอยหลังให้หุ่นยนต์เข้ามาแทนที่?” ก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความสงสัยขึ้นในใจคนทำงานหลาย ๆ คนไม่แพ้กัน

ถ้าคุณเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีคำถามดังกล่าวอยู่ในใจ เราขอแนะนำให้รู้จักกับ https://willrobotstakemyjob.com/ เว็บไซต์ที่จะช่วยคาดการณ์ให้ว่า ‘อาชีพ’ ของคุณ มีโอกาสโดน A.I. แทนที่กี่เปอร์เซนต์ โดยอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยและ Reports ต่าง ๆ วิธีเล่นก็ง่าย ๆ เลย แค่พิมพ์ชื่อ ‘อาชีพ’ ที่เราอยากรู้ลงไป ตัวเว็บจะบอกความเป็นไปได้ที่อาชีพดังกล่าวจะถูก A.I. แทนที่ พร้อมบอกระดับความเสี่ยง และความเป็นไปได้ที่อาชีพดังกล่าวจะถูกแทนที่โดยสมบูรณ์
สังเกตได้ว่า อาชีพส่วนมากที่มีแนวโน้มจะถูก A.I. แทนที่ได้ง่าย มักจะเป็นอาชีพจำพวกที่ต้องทำซ้ำ ๆ หรือมีหลักการแนวทางที่แน่นอน ดังนั้น อาชีพสาย Creative หรือสายที่ต้องใช้การวิเคราะห์อย่างซับซ้อน จึงมีแนวโน้มที่จะรอดจากการถูก A.I. แทนที่ได้มากกว่า (อย่างน้อยก็ในตอนนี้นะ!)

และนี่ก็คือ 4 ประเภทของอาชีพที่มีแนวโน้มว่าจะโดน A.I. แทนที่ได้ยากที่สุด!
1. Creative Job – งานสายครีเอทีฟ อาทิ นักวิทยาศาสตร์ นักเขียนนิยาย หรือศิลปิน
เพราะ A.I. เป็นสิ่งที่ต้องกำหนดเป้าหมายเอาไว้ ก่อนจะเริ่มทำงาน มันไม่สามารถคิดค้นอะไรใหม่ ๆ เองได้ แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา A.I. ก็สามารถสร้างสรรค์ภาพ Portrait ของตัวละครสมมุติขึ้นมาได้สำเร็จ โดยการใช้ภาพหลายพันภาพเป็นแหล่งอ้างอิง เกิดเป็น Edmond de Belamy, from La Famille de Belamy ผลงานศิลปะที่ขายออกในราคา $432,500 (หรือราว ๆ 1,305,2850 บาท)

Edmond de Belamy, from La Famille de Belamy
2. Complex and Strategic Jobs – งานสายวิเคราะห์ที่ต้องใช้กลยุทธ์ที่มีความซับซ้อน อาทิ ผู้บริหาร นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักการฑูต
เพราะในปัจจุบัน A.I. ยังทำได้เพียงเคลื่อนไหวไปตามคำสั่ง แต่ยังไม่สามารถวิเคราะห์นอกกรอบได้ นั่นแปลว่า ในปัจจุบัน ระบบการคิดวิเคราะห์ของมนุษย์ยังคงนำหน้าคอมพิวเตอร์อยู่ระดับหนึ่งนั่นเอง
3. Empathetic and Creative Jobs – งานที่ต้องมีความเห็นอกเห็นใจ อาทิ อาจารย์ พี่เลี้ยง หรือแพทย์
อาชีพเหล่านี้ คือาชีพที่ต้องมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความน่าเชื่อถือ และช่างเอาใจใส่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ A.I. ไม่มี และคงไม่มีใครอยากรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง จากคำบอกเล่าของ Chatbot หรอกน่า
ถึงแม้ว่า A.I. จะไม่สามารถเป็นผู้บอกเล่าคำวินิจฉัยให้ผู้ป่วยฟังได้ แต่หน้าที่ในการวินิจฉัยผู้ป่วย ก็ตกเป็นของ A.I. ไปแล้วในหลาย ๆ สถานรักษาพยาบาล นอกจากจะสามารถวิเคราะห์โรคจากอาการที่เป็นอยู่แล้ว A.I. ยังสามารถวิเคราะห์ถึงแนวทางในการพัฒนาการรักษาให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

4. ‘As-yet-unknown’ jobs – งานอื่น ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
จริงอยู่ที่ A.I. กำลังค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ แต่การมาถึงของ A.I. ย่อมหมายถึงอาชีพใหม่ ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต อาทิ อาชีพควบคุมเครื่องจักร หรืออาชีพที่ต้องควบคุมการทำงานของ A.I. อีกทีนั่นแหละ
ที่มา
https://willrobotstakemyjob.com/
https://www.cnbc.com/2019/01/14/the-oracle-of-ai-these-kinds-of-jobs-will-not-be-replaced-by-robots-.html