ท่ามกลางการเกิดใหม่ของ Startup มากมายทั่วโลก ‘Deep Tech Startup’ คือ อีกขั้นของการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาสร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่าง ในแบบที่สตาร์ตอัพทั่วไปตามไม่ทัน!

‘Deep Tech Startup’ คือ สตาร์ตอัพที่หยิบเอาเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจของตน กระบวนการคิดค้นต้องผ่านการวิจัยและทดลองอย่างต่อเนื่อง สามารถแก้ปัญหาได้ลึกและตรงจุดมากกว่าการใช้นวัตกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่สำคัญคือต้องยากต่อการลอกเลียนแบบ!

แล้วอะไรบ้างที่ถือว่าเป็น Deep Tech? สำหรับตอนนี้ เทคโนโลยีที่ถูกนับว่าเป็น Deep Tech และได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงนี้ คือ AI, Blockchain, VR & AR, Clean Energy, Space Tech และ Quantum Computing

เห็นแค่นี้ก็รู้สึกน่าสนใจแล้วใช่ไหมล่า~ ว่าแล้ว Start ให้ Up ก็ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 5 Deep Tech Startup สายเลือดไทย ที่มาพร้อมแนวคิดและเทคโนโลยีสุดล้ำ พร้อมแก้ปัญหาแบบลงลึก!

Algaeba

สตาร์ตอัพสาย Agritech ผู้พัฒนานวัตกรรมการผลิต ‘สาหร่ายขนาดเล็ก’ (Microalgae) ด้วยการเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิด (เพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน) จนสามารถส่งออกสาหร่ายขนาดเล็กชนิดเข้มข้นที่อุดมไปด้วยสารอาหาร ได้เป็นจำนวนมาก

สาหร่ายชนิดนี้จะเหมาะสำหรับธุรกิจฟาร์มกุ้งเป็นพิเศษ เดิมทีธุรกิจฟาร์มกุ้งมักต้องเจอกับปัญหาสารอาหารของลูกกุ้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพไม่ตรงตามที่ตั้งไว้ การเลี้ยงกุ้งด้วย ‘สาหร่ายขนาดเล็ก’ สารอาหารที่ได้มาตรฐานจาก Algaeba จะทำให้ฟาร์มกุ้งสามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพได้มากขึ้น ทั้งยังสามารถสร้างกำไรให้มากขึ้นได้กว่า 30% เลยทีเดียว

ที่มา
http://www.algaeba.com/
https://www.posttoday.com/economy/sme/558005

Juiceinnov8

Deep-Tech Startup Food Biotechnology ที่ต่อยอดมาจากงานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายเพื่อ ‘ลดน้ำตาล’ ในน้ำผลไม้ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ

เป้าหมายของ JuiceInnov8 คือการลดน้ำตาลในน้ำผลไม้ ด้วยจุลินทรีย์จากธรรมชาติี่ผ่านการคัดเลือกและพัฒนาสายพันธุ์มาแล้ว โดยจุลินทรีย์จะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานที่จำเป็นสำหรับกระบวนการเจริญเติบโต ทำให้โมเลกุลน้ำตาล และปริมาณแคลอรี่ในน้ำผลไม้ลดลง

ในปี 2018 ที่ผ่านมา “JuiceInnov8” ได้รับคัดเลือกให้เข้าสู่โปรแกรม Accelerator (คล้าย ๆ เป็นพี่เลี้ยง) ของ Plug and Play ที่ Silicon Valley เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดย “JuiceInnov8” จะได้รับโอกาสในการทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมอาหารที่เป็น Corporate Partners กับ Plug and Play และได้รับโอกาสในการระดมทุนจาก Plug and Play Ventures ด้วยจ้า (ว้าว!)

โดยทาง “JuiceInnov8” มีความตั้งใจว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว ร่วมกับแบรนด์และผู้ผลิตอาหารทั้งในไทยและต่างประเทศ ภายในปี 2019 นี้ค่ะ …สายเฮลตี้ทั้งหลาย รอชมสุดยอดนวัตกรรมที่จะยกระดับสุขภาพของเราให้ดีขึ้นได้เลย!

ที่มา
https://juiceinnov8.com/
https://www.brandbuffet.in.th/2018/03/juiceinnov8-deep-tech-startup/
https://techsauce.co/news/juiceinnov8-food-biotech-startup-to-be-selected-to-join-plug-and-play

Ricult

Ricult คือ Startup สาย Agritech ที่ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเกษตร เพื่อสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรไทย หลัก ๆ แล้ว Ricult จะใช้ข้อมูลจากดาวเทียมในกาวิเคราะห์หาสภาพดินที่เหมาะสมในการเพาะปลูก ปริมาณของปุ๋ยที่ควรใส่ เวลาที่ฝนจะตก หรือเวลาที่ผลผลิตจะพร้อมเก็บเกี่ยว แล้วแจ้งเตือนเหล่าเกษตรกรให้เตรียมตัว

นอกจากนี้ Ricult ยังเป็นตัวกลางระหว่างเกษตรกรกับผู้ให้สินเชื่อ นำข้อมูลของเกษตรกรและแปลงที่ดิน มาคำนวณเป็น Credit Score (หรือค่าความน่าเชื่อถือ) เพื่อเพิ่มโอกาสให้เหล่าเกษตรกรสามารถกู้เงินได้ง่ายยิ่งขึ้น แก้ปัญหาเรื่องความลำบากในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับเกษตรกรไทย โดยข้อมูลจากการวิเคราะห์ขอRicult มีความแม่นยำสูงถึง 90% เลยทีเดียว

ที่มา
https://www.ricult.com/
https://readthecloud.co/start-9/
https://www.smethailandclub.com/startups-2775-id.html
https://thestandard.co/aukrit-unahalekhaka-ricult-agritech-startup/
https://techsauce.co/tech-and-biz/ricult-offers-machine-learning-credit-scoring-for-farmers/

EATLAB

‘EATLAB’ Startup สาย Foodtech ที่หยิบเอาเทคโนโลยี A.I. และ Blockchain มาใช้จัดการ Big Data ที่ตัวเองมี! โดยการเปิดร้านอาหารขึ้น เพื่อบันทึกพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้บริโภค!

EATLAB ใช้ A.I. ในการหา Insight ของผู้บริโภค วิเคราะห์ถึงความพึงพอใจ คาดการณ์ยอดขาย และเสนอแนะให้ปรับปรุงสูตรอาหารให้ถูกปากผู้บริโภคมากขึ้น ด้วยความแม่นยำถึง 70% ในขณะที่การประเมินความพึงพอใจด้วยวิธีเดิม ๆ มีความแม่นยำเพียง 20-40%

ความสามารถของ EATLAB จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้ผู้ผลิตอาหาร สามารถสร้างสรรค์และพัฒนาธุรกิจร้านอาหารให้สมบูรณ์และถูกใจผู้บริโภคได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมให้ร้านอาหารไทยมีประสิทธิภาพในการแข่งขันมากขึ้นอีกด้วย

ที่มา
https://www.eatlab.tech/home-th
http://www.thansettakij.com/content/301515
https://techsauce.co/news/eatlab-using-ai-blockchain-to-move-thai-food-industry-above-beyond

Meticuly

Meticuly คือผู้เชี่ยวชาญชิ้นส่วนกระดูกทดแทนเพื่อความต้องการเฉพาะบุคคลในรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มองเห็น Pain Point หลายอย่าง ตั้งแต่การความยากลำบากในการหาวัสดุมาใส่ทดแทนกระดูกส่วนที่เสียหาย ปัญหาวัสดุทดแทนที่ไม่ได้ขนาดตามที่ต้องการ ระยะเวลาที่ต้องรอ และราคาที่เกินเอื้อมสำหรับหลาย ๆ คน

Meticuly จึงต่อยอดงานวิจัยเดิมมาสู่ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนกระดูกทดแทน เพื่อความต้องการเฉพาะบุคคลด้วยเทคโนโลยี 3D Printing โดยจะออกแบบและขึ้นรูปวัสดุให้ตรงกับรูปร่างของผู้ป่วยแต่ละราย แล้วนำไปใช้ทดแทนกระดูกที่เสียหายให้เร็วที่สุด 

การผลิตชิ้นส่วนกระดูกทดแทนของ Meticuly มี 3 กลุ่มหลัก
1. ผลิตกระดูกทดแทนโดยใช้วัสดุไทเทเนียม ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนไข้เนื้องอก มะเร็งในกระดูก
2. ผลิตชิ้นส่วนดามกระดูก สำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้แผ่นโลหะดามกระดูก เช่น กระดูกหัก กระดูกแตก
3. ผลิตชิ้นส่วนทดแทนด้วยพลาสติกเพื่อเป็นไกด์ ช่วยให้การผ่าตัดเร็วขึ้น 

เดิมทีกระบวนการผลิตชิ้นส่วนทดแทนกระดูก เป็นงานที่ต้องเขียนโปรแกรมใหม่แบบคนต่อคน ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูงและใช้เวลานาน แต่ Meticuly สามารถผลิตชิ้นส่วนตามสรีระคนไข้ได้อย่างรวดเร็ว ในชั่วข้ามคืน ก็สามารถผลิตเพื่อผู้ป่วยได้ถึง 10 คน

ที่มา
https://www.smethailandclub.com/startups-3860-id.html