“เที่ยงแล้วกินอะไรดี คิดไม่ออกอ่ะ…สั่งกะเพราและกัน”
สองปีที่ผ่านมานี้ เรียกได้ว่าจุด New High และ New Low ของธุรกิจร้านอาหารต่างๆในบ้านเราเลยทีเดียว แม้จะมีบางร้านที่ต้องปิดตัวไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ถือเป็นช่วง Prime Time ที่ทำให้เราได้เห็นศักยภาพขั้นสูงสุดของแต่ละร้าน ว่าพวกเขากัดฟันสู้ไม่ถอยและเดินหน้างัดไม้ตายเด็ดออกมาเพื่อสู้กับวิกฤตการณ์ที่บีบคั้นนี้ไปให้ได้ ดังนั้นวันนี้ SHU จึงขอพาทุกคนไปดูไอเดียทำธุรกิจสุดเจ๋งจาก 5 ร้านกะเพราสุดชิค ที่จะเข้ามาเปลี่ยนเมนูสิ้นคิดแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นเมนูสร้างสรรค์สุดครีเอทที่ผ่านการคิดมาแล้ว
Easy Buddy
ริ่มด้วยร้านกะเพราสุดป๊อปของ เชฟบัดดี้-ถมธนัตถ์ หทโยดม ผู้ตีโจทย์กะเพราใหม่ ที่ไม่ใช่แค่เมนูอาหาร แต่คือไลฟ์สไตล์สำหรับคนยุคใหม่ ตอบโจทย์ทั้งความ อร่อย สะอาด สะดวก และน่าทาน ด้วยสไตล์ผัดกะเพราแบบใหม่ที่นำข้าวมาคลุกเคล้าจนเข้าเนื้อ ไม่ได้ราดข้าวเหมือนร้านอื่นๆ อีกทั้งยังมีท็อปปิ้งสุดพรีเมี่ยมและเครื่องเคียงแปลกใหม่ที่ทานคู่กับกะเพราแล้วแสนจะเข้ากั๊นเข้ากัน แถมหน้าตากะเพราแต่ละเมนูของ Easy Buddy เองยังทำออกมาได้สวยงามและน่ากินมากถึงขั้นเห็นแล้วต้องรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายทันที ครบสูตรเมนู Ready to eat ที่ Easy สมชื่อจริงๆ
เผ็ดมาร์ค (Phed Mark)
ต่อกันด้วยร้านกะเพราที่นาทีนี้ไม่มีไครไม่รู้จัก เพราะเจ้าของร้านคือคุณ ITAN หรือ แทน-กิตติเดช วิมลรัตน์ นักชิมและนักวิจารณ์อาหารชื่อดัง ซึ่งได้เปิดร่วมกับหุ้นส่วนที่เป็นเพื่อนอีก 3 คน แม้จะเป็นที่รู้จักกันในชื่อของกะเพรา Blogger แต่จริงๆแล้ว ทางร้านตั้ง Branding ชัดเจนว่า เป็น กะเพราเดลิเวอรี่ เพราะแม้จะไม่มีโ COVID-19 เป็นตัวเร่งปฏิกริยา ทางร้านก็ได้ทำแพ็กเกจจิ้งพร้อมสำหรับส่งเดลิเวอรี่ไว้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้านอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นการมองการณ์ไกล ที่มองขาดอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามทางร้านก็ยังไม่คิดจะเพิ่มสาขา เพราะตั้งใจให้เผ็ดมาร์คเป็นร้านเล็กๆแต่เต็มไปด้วยคุณภาพเป็นมาตรฐาน
เพรา (Prow)
ร้านกะเพราไอเดียเกร๋จาก คุณนันทิยา เดชอมรธัญ ที่ฉีกกฎกะเพราแบบเดิม ๆด้วยการใส่ท็อปปิ้ง สร้างความโดดเด่นเพื่อให้กะเพราที่คุณเลือกเองนี้พิเศษกว่าใคร จุดเด่นของ Prow คือ เมนูกะเพราที่สร้างสรรค์ โดยไม่ได้จำกัดว่าผัดกะเพราที่แท้จริงต้องใส่อะไรบ้าง ทุกคนสามารถเลือกลองทานเมนูกะเพราแบบที่ตัวเองชอบได้ จะ แครอท ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน ฟักทอง หอมแดง หอมใหญ่ ไข่กุ้ง มันปู ชีส เต้าหู้ หรือพริกเผา ก็เลือกได้เต็มที่ อยากได้ความเผ็ดเท่าไหร่บอกมา Prow พร้อมจัดให้
มุมกะเพรา (MOOM GAPAO)
อยากกิน เมนูสิ้นคิด ที่ไม่สิ้นคิด ต้องมาที่มุมกะเพรา ร้านที่“ไม่ขอเป็นข้าวกะเพราที่อร่อยที่สุด แต่เป็นข้าวกะเพราที่ทานแล้วสบายใจที่สุด” “มุมกะเพรา จานด่วน” ร้านขายเมนูกะเพราโดย คุณธีร์ – ธีรพล โรจน์ทินกร ที่เปิดมาได้เพียง 2 ปีกว่าๆ แต่กลับมีสาขาทั่วกรุงเทพฯแล้ว กว่า 14 สาขา! นอกจากจะมีรสชาติอร่อยที่ไม่ธรรมดาแล้ว “เมนูสิ้นคิดประจำชาติ”อย่าง กะเพราไก่อนามัย กะเพราหมูอนามัย และอีกหลายเมนูมากมายที่ทางร้านติดไว้ในโปสเตอร์ก็ยังแหวกแนวสุดๆ เห็นแล้วเป็นต้องลอง
กะเพราตาแป๊ะ (Kaprao Tapae)
ร้านของ คุณแป๊ะ วรกฤต สกุลเลี่ยว จากกะเพรา Lover สู่ กะเพรา Creator หลังจากลาออกจากงานวิศวกรคุณแป๊ะก็ตั้งเป้าหมายยิ่งใหญ่ขึ้นมาว่า เขาอยากทำอาหารที่ขายได้ทั่วประเทศ โดยกว่าจะเป็นกะเพราตาแป๊ะในทุกวันนี้ได้ เขาใช้เวลาหมกมุ่นอยู่กับผัดกะเพรามาตลอดถึง 6 ปี โดยจุดเด่นของตาแป๊ะก็คือ ทางร้านใช้พริกที่เผ็ดที่สุดในโลกอย่าง Carolina Reaper มาใช้ผัดกะเพรา ในรูปแบบสไตล์การผัดแบบแห้งๆ แต่คงไว้ซึ่งความชุ่มฉ่ำของเนื้อหมูและความเผ็ดจี๊ดถึงใจใครที่เป็นสายไม่เผ็ด ไม่กิน บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะทางร้านยังมีพริกอีกห้าชนิดให้ได้ลองกันอีกด้วย
5 ร้านที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ทุกคนเห้นว่า ร้านจะขายดีได้ไม่จำเป็นต้องมีหลายเมนู ของเพียงแต่เมนูชูโรงตัวเดียว ก็ประสบความสำเร็จได้ ส่วนคำพูดที่ว่า “ถ้าอร่อยจริง เดี๋ยวคนก็ตามมาเอง” อาจไม่จริงเสมอไปเพราะถ้าอร่อยแต่คนไม่รู้จัก ก็ไปที่ร้านไม่ได้นะ ดังนั้นยุคนี้ อยากทำธุรกิจร้านอาหารให้ปัง อาหารต้องเลิศ คอนเทนต์ออนไลน์ต้องมี เดลิเวอรี่ต้องครอบคลุม ถ้าทั้งหมดนี้คุณทำได้ ต่อไปจะเปิดหรือทำธุรกิจอะไรรับรองว่ารอดชัวร์